2025 WRAP-UP

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ปี 2025 ที่ผ่านไปนับเป็นปีที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มีความหลากหลายและซับซ้อนเป็นอย่างมาก ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจกันค่ะ

1. สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์-ภูมิเศรษฐศาสตร์

การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 47 ของคุณโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนมกราคม ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และนำมาซึ่งนโยบายที่เน้นการปกป้องทางการค้า (Protectionist) ที่ก่อให้เกิดผลกระทบและความผันผวนต่อเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า รวมถึงประเทศไทย โดยมีการเก็บภาษีนำเข้า (Reciprocal Tariff) ในอัตราสูงเพื่อลดการขาดดุลการค้าและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศตามนโยบาย "America First"

สงครามอิสราเอล-ฮามาส การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในช่วงต้นปี ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ นำไปสู่การปล่อยตัวประกัน อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงมีอยู่ รวมถึงการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อที่มั่นของฮิซบอลลาห์ในเลบานอน และการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งยังคงยืดเยื้อและมีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน แต่ประเด็นสำคัญสำหรับปี 2026 ได้แก่ ความพยายามในการผลักดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพ โดยมีสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวแปรหลัก สมเด็จพระสันตะปาปา ลีโอ ที่ 14 พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรโวสต์ ได้รับเลือกเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ และถือเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาชาวอเมริกันคนแรก

2. สภาวะเศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะเปราะบาง แนวโน้มปี 2026 ยังคงมีความท้าทายอย่างมากโดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของ GDP โลกจะอยู่ที่ประมาณ 3.1% (IMF) นักวิเคราะห์ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงเผชิญกับความผันผวนจากการใช้นโยบายภาษีนำเข้า เช่น Reciprocal Tariffs ของสหรัฐฯ ตลอดจนปัจจัยทางการเมือง (Trump Effect) ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นและการค้าโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อาทิ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และการกีดกันทางการค้ายังเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะ Inflation-Led Growth Economy

3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเข้มข้น โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยี 5-6G/ IoT ทั่วโลกมีการลงทุนครั้งใหญ่ใน AI ตลอดจนการพัฒนา Agentic AI ที่กำลังก้าวหน้าอย่างมาก ปัจจุบัน AI ไม่เพียงแค่คิดวิเคราะห์เท่านั้น แต่ยังสามารถวางแผนและดำเนินการหลายขั้นตอนที่ซับซ้อนได้ด้วยตนเอง รวมถึงความก้าวหน้าของ Deep Technology อาทิ Solid-State Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น Post-Quantum Cryptography (PQC) การพัฒนาระบบเข้ารหัสเพื่อป้องกันข้อมูลจากการถูกเจาะด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม Humanoid Robot หุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

4. ความยั่งยืน

ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแส แต่กำลังเปลี่ยนเป็นกฎระเบียบและข้อบังคับที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก กลไกปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) มาตรการของสหภาพยุโรปจะเริ่มมีผลบังคับใช้ชัดเจนขึ้นในปี 2026 ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) การเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีราคาสูงขึ้น และกระตุ้นให้ธุรกิจเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด การลงทุนในพลังงานสะอาด การแสวงหาแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อลดต้นทุนในระยะยาวและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นกลยุทธ์สำคัญของภาคธุรกิจ  รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการ การจัดการพลังงาน อาทิ AI, IoT และการพัฒนารูปแบบธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ