Articles

STRATEGIC TECHNOLOGY TRENDS 2024

20/11/2023

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากและผู้ประกอบการต่างต้องเร่งปรับตัวเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กรของตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ Gartner บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลกได้เผยแพร่รายงานเทรนด์เทคโนโลยีสำหรับปี 2024 ที่จะมีผลต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ผู้เขียนจึงขอถือโอกาสในช่วงปลายปีเช่นนี้หยิบยกเนื้อหาที่น่าสนใจมาพูดคุยกัน ดังต่อไปนี้ค่ะ

(1) AI TRiSM : AI Trust, Risk and Security Management การพัฒนาประสิทธิภาพความแม่นยำของเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการกำกับดูแล AI อย่างครอบคลุมทุกมิติทั้งความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และความปลอดภัยจะเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนา/ใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดย Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ปรับใช้แนวคิด AI TRiSM จะสามารถตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้นจากการกำจัดข้อมูลที่ผิดพลาดออกไปได้ถึง 80% (2) Continuous Threat Exposure Management (CTEM) แนวทางการบริหารจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถประเมินความเสี่ยงได้แบบสอดคล้องกับโครงสร้างเฉพาะของแต่ละธุรกิจเพื่อชี้ให้เห็นช่องโหว่และลดความเสี่ยงด้านภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างของเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) Industry Cloud Platform (ICPs) แพลตฟอร์ม Cloud ที่ผสมผสานการบริการ SaaS, PaaS และ IaaS เข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถปรับแต่งได้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมหรือองค์กรเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและเพิ่มความเร็วในการสร้างนวัตกรรมให้กับธุรกิจ (4) Sustainable Technology การพัฒนาเทคโนโลยีไม่เพียงแต่จะถูกใช้เพื่อเป้าหมายทางธุรกิจเท่านั้นแต่ยังต้องพิจารณาถึงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ร่วมด้วยเสมอ (5) Democratized Generative AI การเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ

(6) Platform Engineering การสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนาภายในองค์กรโดยมีการจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นซึ่งถูกออกแบบไว้สำหรับการใช้ซ้ำได้จึงทำให้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับนักพัฒนาและเร่งความเร็วในกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ (7) AI-Augmented Development การใช้เทคโนโลยี เช่น Generative AI, Machine Learning มาเป็นผู้ช่วยในการออกแบบ การเขียนโปรแกรม และการทดสอบ เพื่อลดระยะเวลาในการพัฒนาซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถตอบสนองความต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นได้

(8) Intelligent Applications การที่แอปพลิเคชันสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการป้อนข้อมูลจากมนุษย์หรือเครื่องมือเพิ่มเติม (9) Augmented Connected Workforce การนำเทคโนโลยีมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลของพนักงานรายบุคคลเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานซึ่งเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะการทำงานที่ดีขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง (10) Machine Customers การที่อุปกรณ์อัจฉริยะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้เองแบบอัตโนมัติ โดย Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 จะสามารถสร้างรายได้มากถึงหลักล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

เมื่อเราตระหนักแล้วว่าเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ใดจะส่งผลกระทบต่อการกำหนดทิศทางของธุรกิจต่อจากนึ้ การเตรียมความพร้อมและเลือกนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ธุรกิจสามารถคว้าโอกาสในการเติบโตและขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องสอดคล้องกับบริบทของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง