文章
HACKING CANCER
31/10/2025

คุณจรีพร จารุกรสกุล
ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ความก้าวหน้าทางการแพทย์และปัจจัยทางสังคมส่งผลทำให้ความต้องการการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ปัจจุบันแพทย์สามารถตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากระบบการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้การรักษามะเร็งในปัจจุบันก็กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน การรักษาที่ใช้วิธีการเดียวกันสำหรับผู้ป่วยทุกรายกำลังถูกแทนที่ด้วยการรักษาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ที่พิจารณาถึงลักษณะทางพันธุกรรม ประเภทของเนื้อร้าย และผลการตอบสนองของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน ซึ่งแนวทางการรักษาใหม่นี้ได้ช่วยให้แพทย์สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ตลอดจนลดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น และเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจทางพันธุกรรม การวิเคราะห์ชีวภาพ และระบบการวินิจฉัยที่ทันสมัยกลายเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดและการแพทย์แม่นยำกำลังได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย อาทิ การรักษาแบบ CAR-T Cell Therapy ที่ใช้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งโดยดัดแปลงพันธุกรรมให้จดจำและทำลายเซลล์มะเร็ง ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาภูมิคุ้มกันบำบัดรูปแบบใหม่อย่าง Bispecific Antibodies (ภูมิคุ้มกันบำบัด) และ NK Cell Therapy (เซลล์เม็ดเลือดขาวบำบัด) รวมถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีรังสีชั้นสูงอย่าง Proton Therapy (การฉายรังสีด้วยอนุภาคโปรตอน) และ MR-Guided Radiation (การฉายรังสีที่นำทางด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เป็นต้น
นอกจากนั้น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการปฏิวัติกระบวนการค้นพบและพัฒนายารักษามะเร็ง ปัจจุบันมีการใช้ AI ในการวิเคราะห์โมเลกุลเพื่อค้นหาตัวยาที่มีศักยภาพเนื่องจาก AI สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์โครงสร้างทางเคมีของโมเลกุลนับล้านเพื่อค้นหาสารประกอบที่อาจมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการใช้ AI เพื่อคาดการณ์ปฏิกิริยาตอบสนองของยากับร่างกายมนุษย์ โดย AI สามารถจำลองและวิเคราะห์ว่ายาตัวใหม่จะมีปฏิสัมพันธ์กับร่างกายของผู้ป่วยเช่นไร ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือไม่ และมีประสิทธิภาพในการรักษามากน้อยเพียงใด ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวนี้เพิ่มโอกาสความสำเร็จในการพัฒนายารักษามะเร็งได้อย่างก้าวกระโดด
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงที่จะคว้าโอกาสจากความก้าวหน้าเหล่านี้ การลงทุนเทคโนโลยี การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยทางพันธุกรรม การวิเคราะห์ชีวภาพ และระบบการแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI การเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนายาในภูมิภาค การดึงดูดบริษัทยาชั้นนำให้เข้ามาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศไทย และการสร้างความร่วมมือกับสถาบันวิจัยระดับโลกเพื่อร่วมกันพัฒนายารักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การดึงดูดบุคลากร การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในสาขาที่เกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์เฉพาะบุคคลเป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติที่ต้องการการรักษาเฉพาะทางที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการรักษาโรคมะเร็งนี้ไม่เพียงเป็นความหวังของผู้ป่วยทั่วโลก แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะยกระดับไปสู่การเป็นผู้นำด้านการรักษาโรคมะเร็งในระดับภูมิภาคและระดับโลกผ่านการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การสร้างความร่วมมือ ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมและส่งเสริมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง