文章

GLOBAL TRADE

20/10/2025

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

การค้าโลก (Global Trade) เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ เงินทุน และทรัพยากรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยการค้าโลกนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของโลกาภิวัตน์ (Globalization) ทั้งในฐานะตัวขับเคลื่อนและผลลัพธ์ของการเชื่อมโยงจนส่งผลทำให้เกิดการบูรณาการทางเศรษฐกิจในระดับนานาชาติ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของกระบวนการค้าโลก หนึ่งในนั้นคือ การแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Fragmentation) ที่เกิดขึ้นจากการแบ่งขั้วและการลดลงของความร่วมมือระหว่างประเทศเนื่องจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญกับความมั่นคงแห่งชาติที่สะท้อนถึงการถอยห่างจากกระแสโลกาภิวัตน์ที่เป็นลักษณะเด่นของโลกในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา

การแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังส่งผลกระทบต่อการค้าโลก อุปสรรคทางการค้าและการกีดกันทางการค้า อาทิเช่น การกำหนดภาษีโควตา ข้อจำกัดทางการค้าต่างๆ รวมถึงมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ส่งผลทำให้ปริมาณการค้าระหว่างประเทศชะลอตัว การแบ่งขั้วทางการค้าเนื่องจากการปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความมั่นคงแห่งชาติ อิทธิพลทางการเมือง ความเป็นพันธมิตรทางทหาร หรือค่านิยมที่สอดคล้องกันเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจทางการค้าและการลงทุน ประสิทธิภาพที่ลดลง ขณะที่โลกาภิวัตน์ส่งเสริมให้แต่ละประเทศเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตนเองมีความได้เปรียบ (Comparative Advantage) และทำการค้าขายแลกเปลี่ยนระหว่างกัน การแตกแยกทำให้เกิดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุน ซึ่งลดแรงจูงใจให้เกิดการแบ่งกิจกรรมการผลิตระหว่างประเทศต่างๆ และส่งผลให้ประสิทธิภาพองค์รวมลดลง การถดถอยของนวัตกรรม การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์สร้างข้อจำกัดที่ขัดขวางการเคลื่อนย้ายของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญ และส่งผลทำให้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีระหว่างประเทศถดถอยลง

การค้าระหว่างประเทศท่ามกลางการแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์จึงมีการปรับตัวและมีแนวโน้มที่จะมีลักษณะดังนี้ การปรับทิศทางการค้าและการลงทุน ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการค้าและการลงทุนกับพันธมิตรทางภูมิรัฐศาสตร์ของตนมากขึ้นในขณะที่ปริมาณการค้ากับประเทศที่ไม่เป็นมิตรหรือคู่แข่งอาจชะลอตัวลงหรือลดลง การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน ผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและเสถียรภาพมากกว่าประสิทธิภาพด้านต้นทุนในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของตนเพียงอย่างเดียว และนำไปสู่กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การกระจายความเสี่ยง (diversification) การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศใกล้เคียง (nearshoring) การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศพันธมิตร (friendshoring) การนำฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring) ฯลฯ การเกิดขึ้นของประเทศกลาง หรือ Connector Countries ที่ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงหรือตัวกลางในระบบการค้าและเศรษฐกิจโลก และช่วยลดผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกลุ่มพันธมิตรประเทศที่แตกแยก การเพิ่มความสำคัญของภาคบริการ โดยเฉพาะการบริการด้านดิจิทัล เช่น ศูนย์ข้อมูล การพัฒนาซอฟต์แวร์ บริการให้คำปรึกษา รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะยังสามารถเติบโตได้ดีเนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่น้อยกว่าสินค้าและสามารถส่งมอบข้ามพรมแดนได้ง่าย

การแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์ไม่ได้นำไปสู่การสิ้นสุดของโลกาภิวัตน์โดยสมบูรณ์ แต่กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบและพลวัตของการค้าระหว่างประเทศอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ การทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และการค้าโลกจึงมีความสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเป็นกุญแจสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการ รวมถึงพวกเราทุกคนในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสเพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์และรับมือกับความไม่แน่นอนในอีกหลายปีข้างหน้า